ชื่อไทย ผักชีไทย
ชื่อสามัญ CORAINDER
ชื่อวิทยาศาสตร์ Coraindrum sativum L.
ชื่อวงศ์ Apiaceae(Umbelliferae - Parsley family)
สรรพคุณ ขับลม แก้ไข้ แก้ไอ บำรุงธาตุ
ขั้นตอนการปลูกผักชีไทย
1 การเตรียมแปลงปลูก
1.1 ไถพลิกดินลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร
1.2 ตากดินไว้ 5-7 วันเพื่อฆ่าเชื้อโรคและวัชพืชต่างๆ
1.3 ไถพรวนดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก พร้อมใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ประมาณ 2-3 ตันต่อไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน
1.4 ไถชักร่อง ขนาดความกว้าง 1.5 เมตร ความยาวแปลงขึ้นอยู่กับพื้นที่
2 การเตรียมเมล็ดพันธุ์
2.1 นำเมล็ดผักชีไทยมาบดให้แตกเป็นสองซีก อัตราการใช้เมล็ดประมาณ 5 กิโลกรัม ต่อไร่
2.2 นำไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง
2.3 นำเมล็ดผักชีไทยผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปหว่านปลูก
3 วิธีการปลูก
3.1 ก่อนปลูกต้องรดน้ำให้ทั่วแปลง
3.2 นำเมล็ดผักชีไทยที่เตรียมไว้ มาหว่านลงบนแปลงปลูกที่ได้เตรียมไว้
3.3 กลบด้วยดินละเอียดบางๆ แล้วคลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันต้นอ่อนจากแสงแดด และรักษาความชื้นของผิวดิน
4 การดูแล
4.1 ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
4.2 การใส่ปุ๋ย แบ่งใส่ 2 ครั้ง
ครั้งแรก ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ประมาณ 15-30 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร เมื่อผักชีแตกใบแล้ว ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 ประมาณ 15-20 กิโลกรัม ต่อไร่ เมื่อผักชีอายุประมาณ 20 วันหลังหว่านเม็ด
4.3 โรคและแมลง ควรมีการสำรวจพืชเป็นประจำ โรคที่อาจพบในผักชี ได้แก่ โรคเน่าที่ใบและโคนต้น
และโรคใบไหม้ แมลงที่อาจพบในผักชี ได้แก่ เพลี้ย
5 การเก็บเกี่ยว
5.1 ผักชีจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 45 วัน
5.2 ก่อนถอนควรรดน้ำบนแปลงให้ดินชุ่มชื้นเสียก่อน เพื่อสะดวกในการถอน
5.3 เก็บเกี่ยวโดยการถอนด้วยมือ ติดทั้งต้นและราก
5.4 นำไปล้างดินออก ตกแต่งโดยเด็ดใบเหลืองใบเสียทิ้ง
5.5 นำไปผึ่งลมแล้วบรรจุลงในตะกร้า
ข้อมูลจาก P.K.SIAM
------------------------
การปลูกผักชี..แบบใบดกเขียว
ผักชี เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ใบหยิก สีเขียวสด มีกลิ่นฉุน ความสูงของต้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายแบบ อาทิ ต้มยำ สลัด ลาบ เป็นต้น ถือเป็นผักที่มีการใช้มากในการประกอบอาหารในครัวเรือน เรียกได้ว่าแทบจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว ดังนั้น ปัจจุบันจึงมีราคาค่อนข้างสูงพอควร โดยเฉพาะในหน้าฝน และหากเกิดภาวะน้ำท่วมยิ่งมีราคาแพงมากขึ้น แต่ปัจจุบันแนวโน้มเรื่องเกษตรอินทรีย์ถือเป็นเรื่องที่กำลังมาแรง และต่อไปในอนาคตคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มความนิยมมากขึ้น จากภาวะความวิตกกังวลเรื่องสารเคมีตกค้างในพืชผักที่มีการผลิตแบบใช้สารเคมี ดังนั้น ผักชีอินทรีย์หรือพืชผักอินทรีย์มีแนวโน้มขายดีในอนาคตแน่นอน
ผักชีเป็นผักที่ปลูกง่าย และไม่ค่อยพบโรคหรือแมลงศัตรูพืมากนัก เนื่องจากมีกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยไล่แมลงได้ ขั้นตอนการปลูกผักชีอินทรีย์ สามารถเริ่มตั้งแต่ขั้นต้นของการปลูก ได้แก่
การเตรียมแปลงปลูก
การเตรียมแปลงปลูกเริ่มต้นด้วยการถางหญ้า และปรับพื้นที่แปลงตามประเภทของแปลงให้เหมาะสมกับฤดู และพื้นที่ เช่น
1. ฤดูฝนหรือพื้นที่ชุ่มตลอดปี ควรทำแปลงปลูกแบบยกร่องสูงหรือจัดให้มีร่องระหว่างแปลงเพื่อการระบายน้ำ 2. ฤดูแล้งหรือพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ควรเตรียมแปลงในระดับพื้นหรือแปลงยกสันร่องระหว่างแปลง
เมื่อทำการกำจัดหญ้า และปรับระดับแปลงให้ได้ระดับแล้วจึงทำการพรวนดินผสมกับปุ๋ยธรรมชาติที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น อาทิ แกลบ ขี้เลื่อย มูลโค-กระบือ ฟางข้าว เศษใบไม้ เป็นต้น
การเตรียมเมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ที่มีการปลูกในปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์สิงคโปร์ และพันธุ์ไต้หวัน เมล็ดพันธุ์ผักชีที่ซื้อตามร้านค้ามักผสมกับผงเคมีกันแมลง และความชื้นมาด้วย จึงควรล้างออกให้สะอาด และแช่ด้วยน้ำสะเดาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำมาหว่านที่แปลง เพื่อช่วยป้องกันแมลงมากัดกินเมล็ดพันธ์ุผักชีก่อนการงอก สำหรับการแช่อาจแช่ใส่ถังน้ำหรือใส่ห่อผ้ามัด และแช่ในถังก็ได้
การปลูก ให้ทำการหว่านเมล็ด โดยให้แต่ละเมล็ดห่างกันประมาณ 5-10 เซนติเมตร จากนั้นให้ใช้คราด ทำการคราดตามแนวยาว และแนวขวางของแปลงประมาณ 2 รอบ พร้อมนำฟางข้าวโปรยกลบ ซึ่งควรใช้ฟางข้าวที่มีการบดหรือสับขนาดสั้นๆ และไม่หว่านโปรยให้หนาจนเกินไป พร้อมทำการรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา การให้น้ำในระยะเริ่มแรกหลังการหว่านเมล็ดจะให้น้ำประมาณ 2 ครั้ง/วัน ในช่วงเช้าเย็นทุกวัน จนถึงระยะประมาณ 30 วัน ให้เว้นช่วงวันให้น้ำประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง โดยให้น้ำเช้าเย็นเช่นกัน สำหรับช่วงก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 1 สัปดาห์ ควรให้น้ำน้อยลงประมาณ 3-4 วัน/ครั้ง
การใส่ปุ๋ย ให้ใช้น้ำแช่มูลสัตว์ เช่น มูลโค กระบือ ไก่ หมู โดยทำการแช่น้ำมูลสัตว์ใส่ถังทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ และนำเอาส่วนที่เป็นน้ำรดในแปลงผักชีประมาณ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ โดยเป็นการร่วมกับการให้น้ำทั่วไป ทั้งนี้ให้เริ่มการให้ปุ๋ยน้ำประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากการงอก นอกจากนั้น ให้นำเศษมูลสัตว์ที่เป็นตะกอนหลังการแช่น้ำโปรยหว่านในแปลงเป็นระยะประมาณ 2 ครั้ง/เดือน
การกำจัดวัชพืชแมลง ศัตรูพืชของผักชีมักไม่พบมากนัก แต่เพื่อความมั่นใจให้ใช้น้ำต้มใบสะเดาหรือใบพืชที่มีลักษณะขม เช่น ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด เป็นต้น รดในแปลงสัปดาห์ละครั้ง
การกำจัดวัชพืช การกำจัดวัชพืชให้ทำการถอนวัชพืชในแปลงเป็นระยะ ประมาณ 3 ครั้ง ตลอดระยะการปลูกก็ถือว่าเพียงพอ
การเก็บเกี่ยว ผักชีสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 30-45 วัน ก่อนทำการเก็บเกี่ยวให้รดน้ำในแปลงให้ดินชุ่มเสียก่อนจะทำให้ถอนรากผักชีได้ง่ายขึ้น
การปลูกในปริมาณมากมักให้พ่อค้าคนกลางมารับถึงในสวนได้เลย โดยรับซื้อเป็นกิโลกรัม แต่หากมีตลาดส่งจำหน่ายเองยิ่งถือเป็นการดี
ข้อมูลจาก www.puechkaset.com
---------------------------------
วิธีปลูกผักชีในกระถาง
วิธีปลูกผักชี มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายอย่าง แต่วิธีปลูกผักชีในกระถางจะช่วยให้คุณหยิบมาปรุงอาหารและรับประทานได้ง่าย แต่จะมีขั้นตอนการปลูกอย่างไร ลองไปอ่านข้อมูลกันค่ะ
หลายบ้านที่พอมีพื้นที่สำหรับทำสวน ก็มักจะอยากมีแปลงพืชผักสวนครัวเล็ก ๆ เอาไว้ปลูกรับประทานกันเองในครอบครัว แต่สำหรับบ้านไหนที่มีพื้นที่จำกัด แต่ก็อยากจะมีต้นผักชีต้นเล็ก ๆ สักต้นสองต้นเอาไว้ปรุงอาหารหรือรับประทานเป็นเครื่องเคียง วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีปลูกผักชีในกระถาง ให้ลองไปทำกันค่ะ นอกจากจะประหยัดพื้นที่แล้ว ยังปลูกได้ไม่ยากอย่างที่คิดด้วย
รู้จักกับผักชี
ผักชี คือ พืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้น ประมาณ 40-60 วันเท่านั้น โดยผักชีที่นิยมปลูกกันในประเทศไทยคือ ผักชีพันธุ์สิงคโปร์, พันธุ์สิงคโปร์เมล็ดดำ และพันธุ์ไต้หวัน เป็นต้น ในการปรุงอาหาร คนไทยจัดผักชีเป็นเครื่องเทศที่มีไว้ใส่น้ำซุป และเป็นเครื่องเคียงอื่น ๆ เพราะผักชีสามารถนำมาปรุงอาหารได้ทุกส่วนของต้นและยังช่วยดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ได้ด้วย
ประโยชน์ของผักชี
ใช้เป็นเครื่องเทศช่วยปรุงอาหารให้รสชาติดีมากขึ้น โดยสามาถใช้ได้ทั้ง ใบ ราก และลำต้น
มีสรรพคุณช่วยย่อย บำรุงกระเพาะ ขับลมพิษ ลดน้ำตาลในเลือด ขับลม เป็นต้น
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
เมล็ดพันธุ์ผักชี สามารถหาซื้อได้ตามแหล่งขายเมล็ดพันธุ์ผักทั่วไป
กระถาง
ดินร่วน
ปุ๋ยคอก
ทราย หรือขี้เถ้า
ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง
วิธีปลูกผักชีในกระถาง
1. เตรียมดินสำหรับปลูก ด้วยการตากดินสัก 1 สัปดาห์ แล้วพรวนดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้าเข้าไป
2. บดเมล็ดพันธุ์ผักชีที่ซื้อมาให้แตกออกเป็น 2 ซีก แล้วนำเมล็ดไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง
3. นำเมล็ดพันธุ์ผักชีที่แช่น้ำแล้วไปผึ่งลม ผสมกับทรายหรือขี้เถ้าเล็กน้อย
4. เมื่อเห็นเมล็ดเริ่มงอก ให้นำไปใส่กระถางปลูกที่เตรียมดินเอาไว้แล้ว จากนั้นคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
5. รอเก็บเกี่ยวมารับประทานในอีก 30-45 วัน โดยเวลาถอนให้รดน้ำจนดินชุ่มก่อน และควรถอนทั้งราก
การดูแลรักษา
1. รดน้ำให้ชุ่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
2. เมื่อผักชีแตกใบให้ใส่ปุ๋ยหมัก หรือถ้าจะเร่งให้งามเร็ว ๆ ให้ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต อัตราส่วน 3-4 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปี๊บ แล้วนำไปฉีดพ่นเบา ๆ
3. ผักชีชอบอากาศเย็น แต่เมื่อเริ่มโตแล้วควรให้โดนแดดอ่อน ๆ ยามเช้าบ้าง
ได้รู้จักกับวิธีปลูกผักชีในกระถางแล้ว หากบ้านไหนอยากลองไปปลูกผักชีต้นเล็ก ๆ เอาไว้รับประทานเป็นพืชสวนครัว ลองไปปลูกผักชีตามขั้นตอนเหล่านี้ดูนะคะ
ข้อมูลจาก kapook.com
-------------------------------
วิธีปลูกผักชีนอกฤดู
ผักชีแม้เป็นผักที่เป็นตัวเปรียบเทียบของความไม่เอาไหนแต่ผักชีนั้นมีคุณประโยชน์มากมายเหมือนกับที่ผมเคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ละครับ แต่ก่อนหน้านี้ผมแนะนำวิธีปลูกผักชีแบบธรรมดาตามฤดูกาลซึ่งผักชีจะไม่ค่อยโตและเป็นโรคมากในช่วงหน้าฝน ทำให้ผักชีขาดตลาดและราคาผักชีก็พุ่งสูงด้วย ผมเองเคยเห็นคนที่ปลูกผักชีรวยในช่วงนี้เหมือนกันครับ
สำหรับ อาชีพเกษตรกรรม ในวันนี้ผมจะมาแนะนำการปลูกผักชีในหน้าฝน ซึ่งเป็นหน้าที่ผักชีขาดตลาดและราคาสูงที่สุดด้วยครับ ผักชีเป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น ทั้งใบ โดยนำไปประกอบอาหารทั้งโรยหน้าตกแต่งอาหารหรือทานเป็นผักเคียงกับอาหารต่าง ๆ รากก็มีกลิ่นหอม ตำกับพริกไทยและกระเทียม เป็นเครื่องแกงที่มีกลิ่นหอมใส่ผสมกับแกงจืดหรือหมูบะช่อช่วยเพิ่มรสชาติอร่อยขึ้นได้อีกเยอะเลย
แต่เนื่องจากผักชีเป็นพืชอวบน้ำ จึงบอบช้ำได้ง่ายโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่มีเม็ดฝนตกโดนต้นทำให้ต้นช้ำและยิ่งถ้าเป็นฝนที่ตกช่วงสาย ๆ หรือตกตอนกลางวัน หลังจากฝนตกแล้วแดดออกทำให้ต้นเน่า ผักชีจึงเสียหายได้มากและราคาแพงในหน้าฝนนี่เอง
วิธีการปลูกผักชีในหน้าฝน
วิธีปลูกผักชีนอกฤดูนั้นอย่างแรกเลยเราต้องเตรียมดินและแปลงปลูกให้เรียบร้อยก่อน โดยแปลงปลูกควรที่จะทำเป็นหลังเต่าเพื่อที่น้ำจะได้ไม่ขัง ดินที่ปลูกก็ควรที่จะเป็นดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย โดยนิสัยความชอบของผักชีนั้นไม่ชอบน้ำขัง ชอบที่ชื้นแต่ไม่แฉะ ควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ผสมปูนขาว เอาฟางคลุมใส่หัวเชื้อพด. 3หรือไตโครเดอร์มา หมักทิ้งไว้ระยะหนึ่งก่อนที่จะหว่านเมล็ดลงแปลงปลูก
หลังจากเตรียมดินและสถานที่ปลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราควรที่จะตั้งเสา 4 เสา รอบแปลงปลูกและกางสแลมมันกับเสาทุกต้นถ้าอยากจะให้มั่นคงหน่อยก็ควรที่จะปักเสากลางด้วยกันลมพัด โดยสแลมสามารถที่จะเปิดปิดได้ เมื่อแดดออกจะรูดเปิดออกมาให้พืชได้รับแสง แต่เมื่อแดดร้อนจัดหรือฝนตก รวมถึงเวลากลางคืนก็ปิดสแลมไว้กันฝนตกและแมลงที่เข้ามารบกวน สแลมนั้นจะช่วยลดแรงกระแทกของฝนและพรางแสงแดดที่แรงเกินไปได้
ในช่วงหน้าฝนตกติดต่อกันมาก ๆหลายวัน อาจจะใช้เชื้อราไตโครเดอร์มาหรือเชื้อราคีโตเมียมฉีดพ่นเพื่อลดอาการเน่าหรือใช้น้ำปูนขาวที่มีฤทธิ์เป็นด่างปรับสภาพดินเพราะว่าเชื้อราชอบความเป็นกรด เมื่อมีน้ำปูนขาวซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้เชื้อราก็หยุดการเจริญเติบโตเหมือนกัน แต่ถ้าเราพบว่าผักชีต้นไหนเป็นเชื้อราเราควรที่จะรีบถอนทิ้งออกจากแปลงปลูกในทันที แต่ถ้าผักชีขึ้นแน่นหนาเกินไปเราก็ควรที่จะถอนทิ้งเหมือนกันเพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้นซึ่งเป็นสาเหตุของต้นเน่าและอาจจะลุกลามไปทั่วแปลงถ้าเราไม่มีการดูแลที่ดี
เทคนิคนี้สามารถที่จะใช้กับพืชที่อวบน้ำได้ทุกชนิดเหมือนกันเช่น ผักกาดหอม คื่นช่าย ต้นหอม เป็นต้น ซึ่งเป็นผักที่บอบช้ำได้ง่ายมาก
ส่วนเรื่องราคานั้นในช่วงที่ผลผลิต ผักชี ขาดตลาดผักชีจะมีราคาสูงถึง 180 ถึง 200 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก thaiarcheep.com
--------------------------------------
วิธีปลูกผักชี ผักที่ปลูกง่าย ตลาดต้องการสูง
ผักชีเป็นผักที่ปลูกง่าย เพราะสามารถปลูกได้ทุกสภาพดินปลูกโดยไม่ใช้ดินเลยก็ยังได้
วิธีการปลูกผักชี
1. การเลือกเมล็ดพันธุ์ผักชี เมล็ดพันธุ์ผักชีที่นิยมปลูกกันเนื่องจากปลูกง่าย หาซื้อง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและเจริญงอกงามดี ได้แก่พันธุ์เมล็ดผักชีพันธุ์สิงคโปร์และเมล็ดผักชีไต้หวัน
2. การเตรียมดินเพื่อปลูกผักชี การปลูกผักชีสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและปลูกในแปลงดิน การปลูกในกระถางเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการปลูกรับประทานเอง และการปลูกในแปลงดินเป็นการปลูกเพื่อจำหน่าย สำหรับท่านที่ต้องการปลูกในแปลงดินควรขุดดินหรือพรวนดินขึ้นมาตากแดดไว้ก่อนสัก5-7วัน แล้วทำการพรวนดินซ้ำอีกทีนึงเพื่อให้ดินมีความร่วนและทำการผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้ากับแปลงดิน
3. เมื่อได้เมล็ดพันธุ์ผักชีมาแล้ว ให้ทำการบดเมล็ดผักชีให้แตกออกเป็น2ส่วนก่อน(สำคัญมาก) แล้วจึงนำไปแช่น้ำ 1-3วัน (แนะนำ การแช่น้ำควรนำผ้ามาห่อไว้ แล้วหาอะไรกดทับให้มิดจมน้ำไปเลย) การบดเมล็ดผักชีจะทำให้ผักชีเจริญเติบโตง่ายและเร็วขึ้น ที่สำคัญเมล็ดพันธุ์ผักชีที่จะนำมาปลูกควรเป็นเมล็ดพันธุ์ผักชีที่ใหม่เพราะเมล็ดพันธุ์ผักชีเก่าที่เป็นราปลูกยังไงก็ไม่ขึ้น
4. เมื่อแช่เมล็ดพันธุ์ผักชีแล้ว นำไปผึ่งลม เมื่อเมล็ดพันธุ์ผักชีเริ่มงอกก็นำไปหว่าน
5. ก่อนการนำเมล็ดพันธุ์ผักไปหว่านควรรดน้ำให้ชุ่มแปลงดิน แล้วจึงนำเมล็ดพันธุ์ผักไปหว่าน และคลุมด้วยฟางข้าวบางๆ เพื่อป้องกันต้นอ่อนจากแสงแดดและรักษาความชุ่มชื้นของแปลงดิน
6. การรดน้ำและการกำจัดวัชพืช ผักชีเป็นผักที่ต้องการน้ำมาก ดังนั้นควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ2ครั้ง แต่อย่ารดน้ำมากเกินไป เพราะผักชีไม่ชอบน้ำที่ขัง จะทำให้ผักชีเน่าง่าย ส่วนการกำจัดวัชพืชควรกำจัดอย่างทันที โดยใช้มือถอนได้เลย เพราะวัชพืชจะเป็นตัวแย่งน้ำจากผักชีทำให้ผักไม่เจริบเติบโต
7. การใส่ปุ๋ยให้ผักชีหลังจากแตกใบแล้วแนะนำให้ใส่ปุ๋ยหมัก
การเก็บเกี่ยวผักชี
ผักชีจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 40-45วัน ก่อนการเก็บเกี่ยวควรรดน้ำให้ชุ่มแปลงดินเพื่อการถอนผักชีที่ง่ายขึ้นทำให้ต้นผักชีไม่ขาด การเก็บเกี่ยวผักชีทำได้โดยการใช้มือจับที่โคนรากแล้วถอนดึงขึ้นมา แล้วสะบัดดินออก แล้วน้ำไปล้างน้ำ คัดใบสีเหลืองหรือใบที่เน่าออก มัดๆเป็นกำแล้วใส่ตะกร้าเพื่อทำการขนส่งต่อไป ต้นผักชีที่เป็นสีเขียวสม่ำเสมอจะขายได้ราคาดี
โรคและแมลงศัตรูของผักชี
โรคที่เป็นง่ายและพบเจอกันบ่อยๆ ก็คือโรคใบเน่าใบเหลืองและแมลงศัตรูของผักชี คือ เพลี้ย ปัญหาทั้ง2อย่าง แก้ไขโดยการฉีดพ่นยา
สรุป
ผักชี เป็นผักที่เป็นที่ต้องการของตลาดและราคาสูง ผักชีเป็นผักที่มีประโยชน์มาก ใช้ได้ทั้งต้นและใบที่ใช้นำไปประกอบอาหาร ส่วนรากผักชีมีนำมาตำเพื่อเป็นเครื่องแกงเนื่องจากมีกลิ่นหอมทำให้เพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยขึ้น
การปลูกผักชี
1. หมั่นรดน้ำ
2. ให้ผักชีโดนแดดตลอดวันหรือเกือบทั้งวัน
3. ดินต้องร่วนซุย ไม่ขังน้ำ
4. ถ้าผักชีงอกแล้วใบหงิก แสดงว่ามีเพลี้ยไฟ
5. ระวังมด
ข้อมูลจาก www.vigotech.co.th
-----------------------------------
- เอาส่วนโคนของต้นผักชีที่มีรากติด
แช่ไว้ในแก้วน้ำ ผักชีจะแตกยอดใหม่เรื่อยๆ หากต้องการให้ได้กิ่งก้านใบโต
ให้ย้ายลงปลูกในดิน แค่นี้เราก็จะได้ผักชีกินแล้วค่ะ
- ก่อนจะนำต้นผักชีมาใช้ปรุงอาหาร
ควรล้างให้สะอาด เพราะจะมีขี้ดินและสิ่งสกปรกติดอยู่มาก โดยเฉพาะตรงโคนราก
โดยให้แช่น้ำแล้ว เด็ดก้านใบออกมาล้างทีละก้าน ส่วนตรงรากให้ใช้มีดขูดผิวนอกออกเบา
ๆ ผักชีเป็นผักที่เหี่ยวง่าย วิธีเก็บรักษาให้สดนาน คือให้ล้างจนสะอาด
รอให้สะเด็ดน้ำ แล้วห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบาง ใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก
แล้วนำไปแช่ตู้เย็น
- ก่อนนำผักชีใส่ในเข่งหรือตะกร้า ควรผึ่งลมให้แห้งก่อน เพื่อป้องกันผักชีเน่าเนื่องจากน้ำแฉะเกินไป
วิธีปลูกผักชี
|
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น