This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ไก่ไข่อินทรีย์

ราคาไข่ไก่ (ตลาดสี่มุมเมือง)
ไข่ไก่
ไข่ไก่เบอร์ 0
ไข่ไก่เบอร์ 1
ไข่ไก่เบอร์ 2
ไข่ไก่เบอร์ 3
  • ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ (รายการเศรษฐีเกษตร)
      
   

      
      คุณวรวุฒิ ทองอินทร์  เกษตรกรเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ฟองละ 4 บาท
ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บ้านหางแขยง หมู่ที่ 2 ตำบลหางน้ำสาคร  นอกจากจะเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ปลูกผักปลอดสารพิษ เพาะเห็ด ทำนา ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอวังมโนรม เบอร์โทร. 056-491-229 ในเวลาราชการ และเกษตรอำเภอ เบอร์โทร. 086-445-5975 (ขอขอบคุณข้อมูลจากรายการเศรษฐีเกษตร) ค่ะ

ข้อแตกต่างของการเลี้ยงไก่ไข่ที่อยู่ในกรงและไก่ไข่อินทรีย์แบบปล่อย
  • ไก่ไข่ที่เลี้ยงในกรง จะมีอายุการให้ไข่ไม่เกิน 1 ปีครึ่ง
  • ไก่ไข่อินทรีย์ เลี้ยงแบบปล่อย จะมีอายุการให้ไข่ 2 ปีขึ้นไป
  • เราสามารถซื้อไก่ไข่ที่ปลดระวางจากฟาร์มที่เลี้ยงในกรง  ตัวละ 60-80 บาท มาเลี้ยงแบบปล่อยได้

สูตรอาหารหมัก
  • หยวกกล้วยหั่นและตำให้นุ่ม 30 กิโลกรัม
  • ข้าวลีบ 10 กิโลกรัม
  • รำละเอียด 10 กิโลกรัม
  • ปลายข้าว 1 1/2 กิโลกรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
  • เกลือ 200 กรัม
  • ขี้วัวแห้งป่น 4 กิโลกรัม
  • ดินแดงร่วน 2 กิโลกรัม
      เติมด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์ 40 ซี.ซี. และกากน้ำตาล 40 ซี.ซี. ต่อน้ำสะอาด 20 ลิตร รดลงไปคลุกให้เข้ากันจนวัตถุจับกันเป็นก้อน ให้ใส่ถังมีฝาปิด ทิ้งไว้ 7 วัน นำไปให้ไก่กิน เช้า-เย็น (แนะนำให้ปลูกไม้ผลเพื่อเป็นร่มเงา และเป็นอาหารมื้อกลางวันให้ไก่ เช่น ฝรั่ง มะละกอ กล้วย ส้ม) ซึ่งค่าอาหารเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ต่ำกว่าอาหารสำเร็จรูป 3 เท่า


รักษาไก่ป่วย
  • น้ำหมักจากเชื้อ Bacillus/ ยีสต์/ ผลไม้/ ฟ้าทะลายโจร/ บอระเพ็ด
  • นำมาผสมน้ำให้กินอัตรา 50 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร
  • นำมาให้ไก่กินไม่เกินช่วงละ 7 วัน

การให้ผลผลิต 
  • ไก่ไข่อายุ 6 เดือน ให้ไข่ 50 ฟอง/100 ตัว/วัน
  • ไก่ไข่อายุ 8 เดือน ให้ไข่ 80 ฟอง/100 ตัว/วัน และจะให้ไข่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่ำกว่า 80 %

เป้าหมายการตลาด
  • เลี้ยงไก่ไข่ 300 ตัว ให้ไข่ 80 % = 250 ฟอง/วัน
  • 250 ฟอง * 4 บาท = 1,000 บาท/วัน หรือ 30,000 บาท/เดือน

ลูกไก่ตัวละ 18-35 บาท รวมค่าโรงเรือน ลงทุน 15,000-25,000 บาท โดยมัดตะกร้าสำหรับออกไข่ตามที่สูงเพื่อให้ไก่เกาะและออกไข่ ไก่จะเริ่มให้ไข่เมื่ออายุ 5 เดือน ขายได้ฟองละ 4 บาท
จุดเด่นของไข่อินทรีย์ : ไข่ขาวจะแน่นเหมือนมี  2 ชั้น ส่วนไข่แดงจะนูนเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับไก่ไข่เลื้ยงในกรง เมื่อนำมาทำอาหารเนื้อจะแน่นอร่อย และสามารถเก็บไข่สดไว้ได้นาน 1 เดือนโดยไม่ต้องแช่เย็น







      คุณเฉลย - สมใจ ละม้ายพันธ์   เป็นเกษตรกรตัวอย่างและเป็นผู้ริเริ่มการเลี้ยงไก่ไข่อินทรียในอำเภอคลองหาด จนประสบความสำเร็จ  หากเกษตรกรหรือบุคคลใดสนใจ สามารถเดินทางมาเยี่ยมได้ที่ บ้านเลขที่ 83 หมู่ 5 ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว เบอร์โทร. 086 167 8494 เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้ค่ะ
     
     ไข่อินทรีย์ คือ ไข่ปลอดสารพิษที่ได้มาจากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ไม่มีการฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต หรือกินอาหารที่มีสารพิษตกค้าง 

ลักษณะการเลี้ยง แบ่งเป็น 2 ส่วน
  • ส่วนที่เป็นโรงเรือน เพื่อให้ไก่ได้ใช้เป็นที่นอน โดยจะทำคอนให้ไก่ไว้เกาะนอนช่วงกลางคืน และกินน้ำ อาหาร
  • อีกส่วนเป็นพื้นที่แปลงหญ้า เพื่อให้ไก่ออกมาหากินหญ้า แมลง ตามธรรมชาติ โดยมีตาข่ายล้อมรอบเพื่อป้องกันสัตว์ร้ายเข้ามา
  • ทั้งนี้อัตราการปล่อยเลี้ยงมีข้อแนะนำว่า พื้นที่ 1 ตารางวา ต่อไก่ 1 ตัว และให้มีรังไข่ 1 รังต่อไก่ 9 ตัว

อาหาร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 
  • อาหารข้น ได้แก่ อาหารหลัก คือ ข้าวโพดบด กากถั่วเหลือง ถั่วอบ รำละเอียด เกลือ เปลือกหอยบด กากน้ำตาล และสมุนไพร ผสมกันโดยแบ่งให้กินช่วงเช้าและเย็น
      สำหรับสมุนไพรที่ใช้ผสมให้ไก่กิน จะเป็นสมุนไพรที่สามารถหาได้ง่ายในพื้นที่ เช่น ใบเตย ต้นโทงเทง มีสรรพคุณแก้หวัด ต้นฟ้าทะลายโจร มีสรรพคุณฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ใบฝรั่ง มีสรรพคุณแก้ท้องเสีย หญ้าจีนแดง มีสรรพคุณเป็นยาถ่ายพยาธิ โดยนำมาสับให้ละเอียด ตากแห้งหรือบางครั้งใช้สด แล้วผสมลงไปในอาหารโดยตรง ซึ่งอาหารข้น 100 กิโลกรัม จะใช้สมุนไพร 1 กิโลกรัม
      ไก่ไข่ 1 ตัว กินอาหารวันละ 1 ขีด ถ้าไก่ 10 ตัว ก็กินอาหารวันละ 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้กินช่วงเช้า 0.5 กิโลกรัม และช่วงบ่าย 3 โมง ให้กินอีก 0.5 กิโลกรัม พร้อมทั้งมีน้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา

  • อาหารเสริม ได้แก่ อาหารตามธรรมชาติ จะเน้นปล่อยให้หากินเองตามธรรมชาติ เช่น หญ้า แมลง โดยเริ่มปล่อยตั้งแต่ 4 โมงเย็นทุกวัน ซึ่งไก่จะหากินจนมืดและจะกลับขึ้นคอกกันเอง

      นอกจากนี้ผักที่ปลูกไว้ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้งจีน พริก ข่า ตะไคร้ มะละกอ ตำลึง กระถิน  ก็นำมาให้ไก่กินได้เลย ซึ่งผักที่ปลูกไว้จะไม่ใช้สารเคมี หากมีโรคหรือแมลง ก็จะใช้น้ำหมักสมุนไพรฉีดพ่น


สมุนไพรรักษาหรือป้องกันการเกิดโรค แบ่งเป็น 2 ช่วง
ช่วงปลายฝนต้นหนาว
  • นำฟ้าทะลายโจรมาล้างให้สะอาด แล้วสับให้ละเอียด ตากแห้งเพื่อเก็บไว้บดผสมกับอาหาร
  • นำฟ้าทะลายโจรสดทั้งต้นมาให้ไก่กินเลยก็ได้
ช่วงปลายหนาวต้นร้อน (ไข้หวัดนก)
  • นำสมุนไพร คือ ลูกใต้ใบ ต้นโทงเทง ฟ้าทะลายโจร หนุมานประสานกาย อย่างละ 1 กิโลกรัม
  • หมักกับน้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
  • น้ำเปล่า 5 ลิตร 
  • ใส่ในถังหมัก ทิ้งไว้ 10-15 วัน 
  • นำมาผสมน้ำให้ไก่กิน หรือให้ไก่กินแบบไม่ผสม เมื่อไก่มีอาการซึม หน้าซีด (คือหน้าไม่แดงเหมือนไก่ปกติ)

      การเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์จะช่วยลดต้นทุน ได้อาหารที่สะอาดและปลอดภัย และการปล่อยให้ไก่ได้หาอาหารตามธรรมชาติ จะช่วยลดความเครียด ช่วยให้ไก่แข็งแรงมีสุขภาพดี ขับถ่ายไม่มีกลิ่นเหม็น ทำให้ไม่มีโรค เพราะได้กินอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ซึ่งไข่อินทรีย์จะไม่มีกลิ่นคาว เนื้อแน่นและนุ่ม ทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค คือ แข็งแรง อายุยืน และไม่เครียด ดังเช่น คุณเฉลย และ คุณสมใจ ละม้ายพันธ์





วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ปลูกมะนาวอินทรีย์ในบ่อซีเมนต์



     คุณบุญยัด สามารถ (ลุงเขียว) อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ (ขอบคุณข้อมูลจากคุณเอก สามารถ ในรายการเกษตรกร ปัญญาดี)




     ลุงเขียวปลูกมะนาว 200 ต้น ในพื้นที่กว่า 1 ไร่ มะนาวจะลูกดก เป็นพวงใหญ่ น้ำเยอะและมีรสเปรี้ยวจี๊ด ขายนอกฤดูตกลูกละ 3 บาท (มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อ) ต้นหนึ่งออกลูกไม่ต่ำกว่า 500 ลูกต่อรุ่น ใช้เวลาเพียง 6-9 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้ เพียงแค่ปีเดียวก็คุ้มทุนแล้ว ส่วนการดูแลก็เพียงแค่เตรียมดิน รดน้ำ ให้ปุ๋ย ด้วยวัสดุที่สามารถหาเองได้ ไม่ต้องพึ่งสารเคมี ลดต้นทุน แต่ผลผลิตเกินคุ้ม แถมมีรายได้เสริมจากการตอนกิ่งพันธุ์มะนาวและขี้หมูแห้งอีกด้วย (Facebook เกษตรพอเพียงลุงเขียว)

ข้อแตกต่างระหว่างมะนาวที่ปลูกลงดินกับปลูกในวงท่อ
มะนาวในวงท่อ
  • ดูแลจัดการง่าย
  • ให้ผลดก ลูกใหญ่
  • บังคับให้ออกนอกฤดูได้
  • ให้ผลผลิตเร็ว
มะนาวที่ปลูกลงดิน
  • ต้นสูงใหญ่
  • ออกลูกตามธรรมชาติ
  • แข็งแรง อายุยืน
  • ให้ผลช้า

บังคับมะนาวให้ออกฤดูแล้ง
  • นำถุงพลาสติกมาคลุมหน้าดินให้มิดชิด ป้องกันน้ำเข้า (ช่วงเดือน ส.ค. หรือ ก.ย.)
  • ทิ้งไว้ 1 อาทิตย์ แล้วสังเกตต้นอื่นๆ ถ้าต้นไหนเหี่ยวก่อนให้รดน้ำเพื่อจะได้ออกพร้อมกัน
  • พอใบเหี่ยว ห่อม้วน ให้รดน้ำสม่ำเสมอ
      
การเตรียมท่อซึเมนต์ (ทุกขนาดมีความสูง 50 ซ.ม.)
  • ขนาด 80 ซ.ม. ปลูกมะนาวได้ 5 ปี
  • ขนาด 100 ซ.ม. หรือ 1 เมตร ปลูกมะนาวได้ 7 ปี
  • ขนาด 120 ซ.ม. หรือ 1.20 เมตร ปลูกมะนาวได้ 9 ปี
     เทพื้นด้วยปูนก่อน ปล่อยให้แห้งแล้วค่อยนำท่อซีเมนต์มาวางทับ (ท่อโล่งๆ) แล้วรองพื้นด้วยก้อนหินเล็กๆ วางรองพื้นเพื่อให้ระบายน้ำ เอาแค่น้ำซึมก็พอ อย่าวางให้โล่งมากเพราะจะทำให้ดินในท่อยุบและไหลออกมาตามร่องพื้น    


เตรียมดิน
  • ดินเอาเฉพาะที่เป็นหน้าดิน 3 ส่วน
  • แกลบแดง (แกลบดิบ) 1 ส่วน
  • แกลบดำ (แกลบที่เผาแล้ว) 1 ส่วน
  • ปุ๋ยคอก 1 ส่วน
     นำส่วนต่าง ๆ ที่ได้มาคลุกให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่ในท่อให้เต็ม เหยียบให้แน่น แล้วค่อยขุดดินเพื่อปลูกมะนาว รดน้ำสม่ำเสมอ


น้ำหมักสูตรลุงเขียว (สูตร 1)
  • สะเดา ขี้เหล็ก ตะไคร้หอม สาบเสือ โดยใช้อัตราส่วนเท่ากัน 
  • ขี้หมูแห้ง  กะเอาให้ใกล้เคียงกัน ใส่ในผ้าตาข่ายมัดไว้
  • ถังน้ำ 200 ลิตร
      นำใบสะเดา ใบขี้เหล็ก ตะไคร้หอม สาบเสือ ใส่ลงในถัง (ไม่ต้องหั่น) ใส่ขี้หมูแห้งไว้ด้านบน เติมน้ำจนท่วม ครบ 24 ชั่วโมง ให้เอาขี้หมูแห้งออก ทิ้งไว้ 1 อาทิตย์ แล้วนำมาฉีดพ่น ส่วนผสมที่เหลือในถังเมื่อน้ำหมดสามารถเติมน้ำใช้ต่อได้หลายครั้ง
       สะเดาและขี้เหล็กจะขม ตะไคร้หอมและสาบเสือจะเหม็น เมื่อแมลงมากินใบจะขมและเหม็น ก็จะไม่กล้ามาอีก ส่วนขี้หมูจะเร่งดอก เร่งผล (สูตรนี้ฉีดพ่นทุก 7 วัน)


น้ำหมักสูตรลุงเขียว (สูตร 2)
  • เหล้าขาว 1 แก้ว 
  • น้ำยาสูบ (ยาฉุน) 1 แก้ว
  • น้ำส้มสายชู 1 แก้ว
  • น้ำ 20 ลิตร
      นำส่วนต่างๆ มาผสมให้เข้ากัน สามารถฉีดพ่นได้เลย (สูตรนี้อยู่ได้นานเป็นเดือน)


เทคนิคการไล่แมลงแบบง่ายๆ สไตล์ลุงเขียว
  • ลูกเหม็น 3-4 ก้อน
  • ขวดพลาสติก
      ให้เจาะรูด้านข้างของขวดพลาสติกให้กว้างสัก 3-4 ด้าน เพื่อให้ลมเข้าไปในขวด แล้วเอาลูกเหม็นใส่ในขวดนำไปห้อยตามต้นมะนาว ลมจะพัดเอากลิ่นของลูกเหม็นไล่แมลง เมื่อแมลงได้กลิ่นของลูกเหม็นก็จะไม่มารบกวนมะนาวอีกเลย (ใช้ได้กับพริกที่มีเพลี้ยแป้ง รวมทั้งอ้อยและมัน)


การตอนกิ่งพันธุ์มะนาวสูตรลุงเขียว
  • มีดสำหรับควั่นเปลือกมะนาว
  • เปลือกมะพร้าวแช่น้ำยาเร่งราก
  • เชือกฟาง
      ให้สังเกตกิ่งมะนาวที่แตกออกมาจากกิ่งหลัก จะมีลายขาวๆ กิ่งไม่อ่อนและแข็งจนเกินไป จากนั้นเอามีดควั่นตรงใต้ตาหมุนรอบ และถัดลงมาอีก 5 ซ.ม. ให้ควั่นหมุนรอบ แล้วใช้มีดกรีดทางยาวเอาเปลือกออกแล้วใช้เปลือกขยี้เอาเนื้อเยื่อตรงแกนออกอีกครั้ง  ใช้มีดผ่ากลางเปลือกมะพร้าวเพื่อหุ้มแกนเสร็จแล้วใช้เชือกฟางมัดไว้โดยรอบให้แน่นพอประมาณ ไม่ต้องรดน้ำ ทิ้งไว้ 15 วัน รากจะงอก ตัดได้เลย

      *** ผู้เขียนขอเพิ่มเติมข้อมูลจาก index-lemon เรื่องการปลูกพืชแซมสวนมะนาว ไว้เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ